Skip to main content

Hitachi

นวัตกรรมทางสังคมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นวัตกรรมทางสังคมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

 

 



การเติบโตด้านเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว การขยายตัวของเมือง และการเปลี่ยนแปลงสู่สังคมอุตสาหกรรมที่เกิดขึ้นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้นทำให้ความต้องการทางด้านทรัพยากรพลังงานและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ว่าภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้นกำลังเผชิญกับวิกฤตทางระบบนิเวศวิทยาที่สำคัญ จึงจำเป็นที่ต้องตอบสนองความต้องการเหล่านี้ ในขณะเดียวกันก็ต้องรักษาสภาพแวดล้อมให้ยั่งยืนควบคู่ไปด้วย นวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจะเป็นแนวทางธรรมชาติที่จะช่วยส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจและสังคม และยังลดผลกระทบที่มีโลกของเราไปพร้อม กัน


การผลักดันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก้าวสู่เส้นทางที่ยั่งยืน

ประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืน

แม้ว่าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเป็นภูมิภาคที่เติบโตเร็วที่สุดแห่งหนึ่งของโลก แต่ก็ยังมีประเด็นปัญหาเกี่ยวกับความยั่งยืนของภูมิภาคบางเรื่องที่อาจกระทบต่อการพัฒนาในระยะยาว

วิถีของHitachi

(Social Innovation Business) กลุ่มธุรกิจนวัตกรรมเพื่อสังคมของHitachiมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาสิ่งแวดล้อมที่สำคัญหลาย ๆ ประการในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีส่วนช่วยขับเคลื่อนภูมิภาคนี้ไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน

แหล่งที่มา

60%

คือตัวเลขคาดการณ์ของปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ที่เพิ่มมากขึ้นของภูมิภาคนี้ในปี พ.ศ. 2583

แหล่งที่มา

>110 ล้าน

คือจำนวนของประชากรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ไม่สามารถเข้าถึงการบริโภคน้ำสะอาด

แหล่งที่มา

2.4 ล้าน

คือจำนวนผู้เสียชีวิตก่อนวัยอันควรเนื่องมาจากมลพิษทางอากาศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยประมาณต่อปี

แหล่งที่มา

 

นวัตกรรมเพื่อสังคมสีเขียวของเรา

1. อากาศที่สะอาดขึ้นและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

ความแออัดของการจราจรและของเสียจากโรงงานอุตสาหกรรมเป็นมลพิษหลักในภูมิภาค Hitachiกำลังต่อสู้กับปัญหาเหล่านี้ด้วยการผสานรวมโซลูชั่นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเข้ากับโครงสร้างพื้นฐานทางอุตสาหกรรม


วิถีของHitachi

Hitachiกำลังพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถลดการปล่อยคาร์บอนให้แก่ภาคการผลิตที่สำคัญของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านการใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีอัจฉริยะ

แหล่งที่มา

Hitachi Energy ได้จัดหาระบบจัดเก็บพลังงานแบตเตอรี่ให้กับกิจการไมโครกริดภาคเอกชนที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย เพื่ออำนวยความสะดวกในการรวมแหล่งพลังงานสะอาดและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แหล่งที่มา

โรงไฟฟ้าเสมือนจริงแห่งแรกของประเทศสิงคโปร์จะใช้โซลูชั่นการจัดเก็บพลังงานของHitachi ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยให้สามารถบูรณาการพลังงานสีเขียวอย่างมีประสิทธิภาพและลดการปล่อยคาร์บอนได้ในที่สุด แหล่งที่มา

Hitachi ได้จัดหาหม้อแปลงไฟฟ้าขนาด 220 กิโลโวลต์ให้กับโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์รายใหญ่ในประเทศเวียดนาม ซึ่งช่วยสนับสนุนการผลิตพลังงานให้ได้ประโยชน์สูงสุดและลดการปล่อยคาร์บอนของประเทศ แหล่งที่มา


2. การสร้างเมืองอัจฉริยะที่เฟื่องฟู

ยุทธศาสตร์สำคัญของการสร้างเมืองอัจฉริยะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต้องพุ่งเป้าไปที่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทื่ยืนยาวรวมถึงสุขภาพที่ดีของประชากรในระยะยาว


วิถีของHitachi

Hitachi ได้ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและองค์กรสำคัญทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในการช่วยพัฒนาเมืองอัจฉริยะที่ยั่งยืนในภูมิภาค

แหล่งที่มา

ระบบรถไฟรางอัจฉริยะในรถไฟฟ้าสายสีแดงของประเทศไทย นำเสนอทางเลือกที่ยั่งยืนกว่าการใช้รถยนต์ แหล่งที่มา

Hitachi ได้พัฒนา Super Low Energy Building (SLEB) Smart Hub ซึ่งเป็นอาคารรูปแบบครบวงจร เพื่ออำนวยความสะดวกให้การนำเทคโนโลยีล่าสุดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและประหยัดพลังงานมาใช้โดยง่าย แหล่งที่มา

การร่วมลงทุนกับ Sunway เป็นการยืนยันถึงการอนุรักษ์พลังงานอย่างต่อเนื่องในโครงสร้างพื้นฐานกลุ่มใหม่ แหล่งที่มา


3. เพิ่มโอกาสการเข้าถึงน้ำสะอาด

การเข้าถึงน้ำสะอาดเป็นปัญหาเรื้อรังในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจำเป็นจะต้องมีการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานของการจัดการน้ำ สุขาภิบาลและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง


วิถีของHitachi

Hitachi ได้พัฒนาระบบจัดการการรั่วไหลของน้ำและระบบสุขาภิบาลน้ำที่มีการจัดการต้นทุนอย่างคุ้มค่า เพื่อต่อสู้กับปัญหาการขาดแคลนน้ำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

แหล่งที่มา

Hitachi Aqua-Tech ได้เริ่มการลงทุนร่วมทุนกับ Filinvest พันธมิตรในฟิลิปปินส์ เพื่อเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาในพื้นที่ด้วยความเชี่ยวชาญที่ได้รับการยอมรับของ Hitachi ในกระบวนการแยกเกลือออกจากน้ำ การบำบัดน้ำเสีย และการบำบัดการหมุนเวียนน้ำกลับมาใช้ใหม่ แหล่งที่มา

ประเทศสิงคโปร์ถูกเลือกให้เป็นพื้นที่ที่เหมาะสมในการทดสอบโซลูชั่นที่พัฒนาขึ้นใหม่ของ Hitachi ซึ่งจะสามารถระบุพื้นที่ที่อาจเกิดการรั่วไหลของน้ำโดยใช้จำนวนเซ็นเซอร์น้อยกว่าระบบทั่วไป แหล่งที่มา

วันที่เผยแพร่ มกราคม พ.ศ. 2565

 

Close