เศรษฐกิจอาเซียน (สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้: ASEAN) ถูกกำหนดให้มีเส้นทางอนาคตที่ดี โดย IMF (กองทุนการเงินระหว่างประเทศ) ประมาณการ GDP (ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ) ที่ 5.8 ล้านล้านดอลลาร์ ในปี พ.ศ.2566 และอัตราการเติบโตของ GDP เฉลี่ยที่คาดหวัง ที่ร้อยละ 5.4 ในปี พ.ศ.2567 ด้วยความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจนี้ ประกอบกับประชากรจำนวนมหาศาลกว่า 680 ล้านคนทำให้อาเซียนเป็นศูนย์กลางที่น่าดึงดูดสำหรับโอกาสในการลงทุนทางธุรกิจ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และแรงผลักดันทางเศรษฐกิจ
สถิติเหล่านี้เน้นย้ำถึงความเร่งด่วนอย่างมากสำหรับความพยายามร่วมกัน ในการสร้างและยกระดับชุมชนที่ได้รับผลกระทบในภูมิภาค
ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่แข็งแกร่ง การเปลี่ยนแปลงไปสู่ดิจิทัล แนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืน และระบบอัตโนมัติที่รวดเร็วขึ้น ทำให้อาเซียนมีศักยภาพที่จะกลายเป็นจุดหมายในด้านนวัตกรรมสำหรับทุกคน
นวัตกรรมทางสังคมของ Hitachi ช่วยส่งเสริมระบบนิเวศที่ทำให้ความฝันของอาเซียนรุ่งเรือง และเกิดความเป็นไปได้ใหม่ๆ ต่อไปนี้คือประเด็นสำคัญและตัวอย่างบางส่วน:
Hitachi ได้เสริมความแข็งแกร่งให้กับการขนส่งสาธารณะด้วยโครงการต่างๆ เช่น รถไฟฟ้าชานเมือง สายสีแดง และ โฮจิมินห์ซิตี้ สาย 1 ซึ่งทำให้การเดินทางง่ายขึ้น ลดความแออัด และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน
นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546 Hitachi เป็นหนึ่งแรงผลักดันให้เกิดการเข้าถึงบริการทางการเงินในอินโดนีเซีย ตั้งแต่การจัดหาตู้เอทีเอ็มหมุนเวียนเงินสดไปจนถึงการช่วยเหลือการดำเนินงานหมุนเวียนเงินสดเป็นครั้งแรกของประเทศ Hitachi ได้สร้างเหตุการณ์ครั้งสำคัญในการทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงบริการทางธนาคารได้มากขึ้น
การเปิดตัวใช้ระบบการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ในเวียดนามเป็นการวางรากฐานสำหรับโครงสร้างพื้นฐานแบบไร้เงินสดทั่วประเทศ
ศูนย์ Lumada ในประเทศไทยนำเสนอโซลูชั่น IoT เพื่อส่งเสริมประเทศไทย 4.0 Hitachi ร่วมมือกับสถาบันวิจัยมาตรฐานและอุตสาหกรรมแห่งมาเลเซีย (SIRIM) ได้จัดตั้งศูนย์ประสบการณ์การผลิตอัจฉริยะ (SMEC) ขึ้นในกรุงกัวลาลัมเปอร์ เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในการใช้เทคโนโลยี IR4.0
หม้อแปลงไฟฟ้าระบบจำหน่ายจำนวน 5,600 เครื่องถูกส่งไปยังพม่าในปี พ.ศ. 2562 เพื่อมอบความสว่างให้กับชาวบ้าน
Hitachi ได้จัดหาและมอบหม้อแปลงไฟฟ้าขนาด 220 กิโลโวลต์ให้กับ Toji Group ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Loc Ninh 5 ขนาด 50MWp ซึ่งช่วยเปิด วิสัยทัศน์ด้านพลังงานหมุนเวียนของเวียดนาม
เพื่อรับมือกับความท้าทายที่การเข้าถึงของประชาชนไม่เท่าเทียมกัน โครงสร้างพื้นฐานที่ตึงเครียดในเขตเมือง โรคไม่ติดต่อ และประชากรสูงวัยที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่ด้านการดูแลสุขภาพของอาเซียนกำลังอยู่ระหว่างการเปลี่ยนแปลงอย่างจริงจัง ด้วยการบูรณาการเทคโนโลยีดิจิทัล
ด้านบริการการดูแลสุขภาพทางไกลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีมูลค่า 293.9 ดอลลาร์สหรัฐในปี พ.ศ. 2564 และคาดว่าจาก พ.ศ. 2564 ถึง พ.ศ. 2572 จะเติบโตที่อัตราการเติบโตต่อปี (CAGR) ที่ร้อยละ 17.6
ด้วยอินเทอร์เน็ตของทุกสิ่ง (IoT) หุ่นยนต์ ระบบอัตโนมัติ ข้อมูลขนาดใหญ่ และปัญญาประดิษฐ์ (AI) Hitachi ช่วยให้ผู้ผลิตสามารถเร่งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ลดข้อผิดพลาดของมนุษย์ เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และเพิ่มประสิทธิภาพห่วงโซ่การผลิตทั่วโลกของตนได้ สิ่งนี้นำไปสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจ การสร้างงาน และสภาพแวดล้อมที่พร้อมสำหรับนวัตกรรม
สิ่งนี้ไม่เพียงเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับภาคส่วนการผลิตในอาเซียน แต่ยังทำให้ภูมิภาคนี้เป็นศูนย์กลางสำหรับแนวทางปฏิบัติด้านการผลิตขั้นสูงและยั่งยืนอีกด้วย
ประเทศกำลังพัฒนาต้องการเงินทุนในการลงทุนด้านพลังงานทดแทน 1.7 ล้านล้านดอลลาร์ในแต่ละปี
ตามรายงานการลงทุนโลกปี พ.ศ. 2566 โดยการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (UNCTAD) ในปี พ.ศ. 2565 มีการลงทุนในพลังงานสะอาดเพียง 544 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น
ด้วยความคิดริเริ่มด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย Hitachi จัดการกับความท้าทายต่างๆ เช่น มลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม ความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้น และการบริหารจัดการของเสียที่ไม่เพียงพอ ซึ่งช่วยส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงสู่อนาคตที่มีคาร์บอนต่ำ
ปี พ.ศ.2566 เป็นปีแห่งความท้าทายและโอกาสสำหรับอาเซียนในขณะที่เผชิญกับความไม่แน่นอนทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ภูมิภาคนี้สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี ความยั่งยืน และนวัตกรรม เพื่อทำให้เกิดความก้าวหน้า Hitachi มองเห็นสนับสนุนอนาคตที่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี แนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืน และนวัตกรรมที่พัฒนาไปอย่างกลมกลืน
วันที่เผยแพร่: ธันวาคม พศ. 2566