Skip to main content

Hitachi

นวัตกรรมทางสังคมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ข้อมูลเชิงลึกจากการวิเคราะห์โดย ปัญญาประดิษฐ์ (AI)

การสร้างโครงสร้างพื้นฐานสำหรับชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ด้วยการเป็นพันธมิตรและการร่วมมือกัน

    การปล่อยมลพิษจากการขนส่งทางถนนมีส่วนทำให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกประมาณร้อยละ 12 ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งหมดทั่วโลก(1) ในขณะที่หลายประเทศเปลี่ยนจากการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลมาเป็นการกำหนดสัดส่วนพลังงานที่มีความยั่งยืนมากกว่า จึงมีการมองว่ารถยนต์ไฟฟ้าเป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพในการนำโครงสร้างพื้นฐานการขนส่งทางถนนแบบใช้ไฟฟ้ามาใช้ ซึ่งรองรับด้วยการกำหนดสัดส่วนพลังงานให้มีไฟฟ้าพร้อมใช้ในแต่ละขั้นตอนของการเปลี่ยนผ่าน แต่ก็มีความท้าทายอีกมาก(2)

    ในบทความนี้ เราจะเน้นเรื่องระบบนิเวศของยานยนต์ไฟฟ้าที่กำลังพัฒนาของประเทศสิงคโปร์ ซึ่งคุณAlex LIN จาก NTUitive and Action Community for Entrepreneurship (ACE) ได้รับเชิญให้เป็นผู้อภิปรายเกี่ยวกับความท้าทายในปัจจุบันในการนำรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้ และอะไรคือสิ่งที่สามารถทำได้ด้วยการร่วมมือและการพยายามร่วมกันของกลุ่มพันธมิตรในระบบนิเวศ โดยมีคุณ Lounell GUETA ตำแหน่ง Chief Researcher ที่ Hitachi Asia Singapore R&D เป็นผู้ดำเนินรายการ ร่วมด้วย คุณPaul Welsford จาก Electric Vehicle Association of Singapore (EVAS), คุณChee Kiong GOH จาก Charge+, คุณ Nirupa CHANDER จาก Hitachi Energy และคุณ Mark TAN จาก Land Transport Authority (LTA) ประเทศสิงคโปร์

    (การแสดงความคิดเห็นและมุมมองของผู้เข้าร่วมในบทความนี้เป็นความคิดเห็นและมุมมองของผู้เข้าร่วมเองและไม่ได้แสดงถึงมุมมองขององค์กรแต่อย่างใด)

    เผยแพร่เมื่อ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2564

     

    การทำให้ระบบนิเวศของยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศสิงคโปร์มีอนาคตที่สดใส

    สิ่งที่ใกล้เคียงกับใจผมมากที่สุด คือ ผลลัพธ์ของการประชุมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติ (COP26) ครั้งที่ 26 ซึ่งจัดขึ้นที่กรุง Glasgow ในหลายเดือนที่ผ่านมา โดยมีการหารือกันอย่างหนักเกี่ยวกับการวัดค่า การกำหนดมาตรฐาน และการตรวจสอบที่เป็นความท้าทายอย่างต่อเนื่องสำหรับเครื่องยนต์สันดาปภายใน ซึ่งเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าจะช่วยให้สามารถกำหนดมาตรฐานได้เนื่องจากข้อมูลทั้งหมดมาจากคอมพิวเตอร์

    ปัญหาประการหนึ่งที่ทำให้การนำรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้ล่าช้าคือการชาร์จไฟ พวกเราส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในตึกสูงที่ไม่มีจุดชาร์จ หลายคนจึงหวังที่จะให้รัฐบาลเป็นผู้ติดตั้งโครงสร้างพื้นฐานสำหรับชาร์จไฟและดำเนินกิจการสถานีชาร์จ

     

    คุณMark คุณมีมุมมองอย่างไรเกี่ยวกับสถานการณ์รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศสิงคโปร์และสถานการณ์ของสถานีชาร์จ

    Alex
    พิธีกร


    Mark

    รถยนต์ไฟฟ้าลดการปล่อยมลพิษได้เกือบครึ่งหนึ่ง เมื่อเทียบกับรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) และเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Singapore Green Plan 2030 ซึ่งเรากำลังผลักดันการใช้รถยนต์ไฟฟ้า และเพื่อสนับสนุนให้ผู้ขับขี่เปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้า เรากำลังเพิ่มความสามารถในการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าโดยจูงใจให้มีการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าด้วยการคืนภาษีและการปรับภาษีค่าใช้ถนนสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าและขยายโครงสร้างพื้นฐานสำหรับชาร์จของเรา

    โครงสร้างพื้นฐานสำหรับชาร์จเป็นปัญหาที่แก้ไม่ตกเหมือนไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกัน คุณต้องมีสถานีชาร์จมากขึ้นเพื่อกระตุ้นให้คนเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้า แต่ผู้ให้บริการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าก็ต้องการให้มีคนซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นเพื่อขยายเครือข่ายสถานีชาร์จ โชคดีที่การผลักดันให้มีการใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้นจากตัวเลขการนำมาใช้ล่าสุด (อัตราร้อยละของรถยนต์ไฟฟ้าที่จดทะเบียนรถใหม่) ซึ่งสูงขึ้น 3 หรือ 4 เท่าเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดย LTA ได้ริเริ่มหลายโครงการ เช่น โครงการนำร่องสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแห่งแรกสำหรับจุดชาร์จมากกว่า 600 จุดในที่จอดรถ 200 แห่งที่ URA ประมูลได้และการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า Common Charger Grant ในเดือนกรกฎาคม เพื่อส่งเสริมการถือครองทรัพย์สินส่วนตัวที่ไม่ใช่ที่ดิน อย่างเช่น คอนโดและอพาร์ตเมนต์ เพื่อจัดตั้งสถานีชาร์จให้มีสัดส่วนที่เหมาะสมอย่างมีนัยสำคัญสำหรับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกที่อยู่อาศัยในบริเวณนั้น

    และเรากำลังวางแผนที่จะจัดตั้งสถานีชาร์จในบริเวณที่อยู่อาศัยที่รัฐให้ความช่วยเหลือประชาชนอยู่ ซึ่งรู้จักกันในชื่อ Housing and Development Board (HDB) ซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่ประมาณร้อยละ 85 เราจึงจำเป็นต้องใช้วิธีปรับเทียบเพื่อจัดการให้อย่างเหมาะสม โดยติดตามการใช้รถยนต์ไฟฟ้าอย่างใกล้ชิด เราต้องกระตุ้นความต้องการในการใช้รถยนต์ไฟฟ้า แต่ต้องไม่เร็วเกินไปจนทำให้สถานีชาร์จอิ่มตัวซึ่งจะทำให้ผู้ให้บริการขาดทุน

    Alex

    คุณNirupa คุณคิดยังไงกับสถานการณ์รถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะโครงข่ายไฟฟ้าและกรอบงานของสถานีชาร์จ


    Nirupa

    ประกาศของประเทศสิงคโปร์เรื่อง The Green Plan มีความสำคัญต่อการเริ่มพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าแบบก้าวกระโดด ดิฉันเชื่อว่าการนำรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้และการจัดโครงสร้างพื้นฐานให้เหมาะสมจะช่วยได้ จากที่ดิฉันได้อ่านเกี่ยวกับความกังวลของผู้คนเกี่ยวกับการนำรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้ ข้อกังวลอันดับหนึ่งก็คือไฟที่ชาร์จจะเพียงพอให้ไปถึงที่หมายหรือไม่ หรือความกังวลเรื่องระยะวิ่ง ซึ่งปัญหาใหญ่อันดับสองคือความพร้อมใช้งานของสถานีชาร์จ

    LTA, Singapore Power และ Energy Market Authority จำเป็นต้องร่วมมือกันเพื่อปรับปรุงมาตรฐานและขอบเขตของการตลาดที่เหมาะสมสำหรับรถยนต์รุ่นที่ใช้ในเชิงพาณิชย์และธุรกิจ เพื่อจัดโครงสร้างพื้นฐานของรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเหมาะสมให้สำเร็จ ในฐานะผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยี จะไม่มีข้อจำกัดทางด้านเทคโนโลยีอีกต่อไป นวัตกรรมจะต้องดำเนินต่อไปเพื่อพัฒนาในส่วนของสถานีชาร์จ

     

    ความท้าทายในการจัดโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการชาร์จให้เหมาะสม

    เรื่องนี้ยังเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงอุปนิสัยของผู้ใช้งานด้วย ผู้ให้บริการสามารถใช้เทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์เพื่อช่วยเหลือผู้ขับขี่ได้

     

     

    คุณChee Kiong นั่นคือสิ่งที่คุณกำลังพิจารณาอยู่ใช่ไหม

    Alex
    พิธีกร

     


    Chee Kiong

    ผมจะตีกรอบว่ามีปัจจัย 4 ข้อที่เป็นแรงผลักดันในการนำรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้ ปัจจัยข้อแรก คือ ต้นทุนของรถยนต์ไฟฟ้าซึ่งสูงกว่ารถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ทั่วไป ถ้าคุณทำกิจการกลุ่มรถตู้ในประเทศสิงคโปร์อยู่ ตอนนี้ตัดสินใจง่ายมากที่จะเปลี่ยนจากรถเครื่องยนต์สันดาปเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเนื่องจาก LTA ให้คืนภาษีได้

    ปัจจัยสำคัญข้อที่สอง คือ ความกังวลเรื่องระยะวิ่ง ข่าวดีก็คือรถยนต์ไฟฟ้าจะได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นและวิ่งได้ไกลขึ้น ปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้าวิ่งได้เฉลี่ยประมาณ 400 ถึง 500 กม. ซึ่งผู้บริโภคจำนวนมากมีความกังวลเรื่องระยะวิ่ง เนื่องจากห่วงว่าการชาร์จหนึ่งครั้งจะเดินทางได้ไกลแค่ไหน

    ปัจจัยสำคัญข้อที่สามคือเวลาการชาร์จ ในแง่ของการกำหนดทิศทางนโยบาย และการเปลี่ยนแปลงวิธีคิด ปั๊มน้ำมันเป็นแบบอย่างในปัจจุบัน รถยนต์ทั่วไปที่ขับไปปั๊มน้ำมันจะใช้เวลาประมาณ 5-10 นาทีในการใช้บริการ ซึ่งจะไม่เหมือนกับการที่คุณขับรถยนต์ไฟฟ้า LTA กล่าวว่าเราควรมองว่าการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเหมือนกับการชาร์จแล็ปท็อป คือ ต้องให้เวลาในการชาร์จต่อเนื่องหลายชั่วโมง ซึ่งการเปลี่ยนวิธีคิดเป็นสิ่งสำคัญในการเอาชนะอุปสรรคทางจิตใจในการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

    ปัจจัยข้อที่สคือ ความพร้อมใช้งานของสถานีชาร์จ ซึ่งบริษัท Charge+ จะเข้ามามีบทบาท โดยที่ LTA สนับสนุนให้ผู้ประกอบการอย่าง Charge+ ให้บริการสถานีชาร์จทั่วประเทศสิงคโปร์ การมีสถานีชาร์จให้เห็นจะสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้คนว่าไฟฟ้าจะไม่หมดขณะที่อยู่บนท้องถนนหรือไม่ต้องกังวลว่าสถานีชาร์จที่ใกล้ที่สุดอยู่ที่ไหน

     

     

     

    การนำรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้เพิ่มขึ้นและการเปลี่ยนวิธีคิด

     

    คุณ Paul คุณช่วยแบ่งปันมุมมองของอุตสาหกรรมหน่อยว่าคุณมองเห็นอะไรในการพัฒนา และเราจะเพิ่มการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศสิงคโปร์ได้อย่างไร

    Alex
    พิธีกร


    Paul

    ผมรู้สึกว่าประเทศสิงคโปร์เป็นประเทศต้นแบบที่ดีที่สุดในการนำรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้เนื่องจากขนาดของประเทศ เป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่ได้เห็นสิ่งนี้ และการตระหนักรู้ถือเป็นส่วนสำคัญในเรื่องนี้ คำถามที่มักจะเกิดขึ้นคือไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกัน แต่ที่จริงเป็นผลกระทบแบบทวีคูณเหมือนก้อนหิมะที่กลิ้งลงเขามากกว่า เพราะเมื่อคุณจัดสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าให้เหมาะสม คนก็จะเข้าใจ ตระหนักรู้ สบายใจ และสะดวกที่จะมีรถยนต์ไฟฟ้าสักคัน เมื่ออุตสาหกรรมเห็นรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นบนท้องถนน ความต้องการสถานีชาร์จเพิ่มขึ้น ต่างฝ่ายก็จะส่งเสริมซึ่งกันและกัน

    ส่วนที่ยาก คือ การทำให้ก้อนหิมะกลิ้งลงมา วิธีคิดเป็นหนึ่งในสิ่งที่ยากที่สุดที่จะเปลี่ยนแปลง นั่นเป็นเหตุผลที่ Electric Vehicle Association of Singapore (EVAS) เผยแพร่คู่มือรถยนต์ไฟฟ้าเมื่อต้นปีนี้ โดยมีแนวคิดในการพยายามขจัดอุปสรรคบางประการให้ผู้คนและช่วยให้พวกเขาสามารถตัดสินใจได้โดยมีข้อมูลประกอบ

    เรากำลังพยายามสนับสนุนอุตสาหกรรมนี้รวมทั้งสมาชิกทั้งหมดของสมาคมรถยนต์ไฟฟ้า และเรายินดีที่ได้เห็นคนจำนวนมากขึ้นมาร่วมงานกับเราและเข้าร่วมกลุ่มโซเชียลของเรา เราหวังว่าจะได้ทำกิจกรรมมากขึ้นอีกในเร็ววันนี้ และคอยแบ่งปันข้อมูลร่วมกันเพื่อช่วยขจัดอุปสรรคทั้งหลาย

    Alex

    เราจะหันไปพูดคุยกับคุณ Lounell ในมุมมองของคุณ ในหัวข้อรถยนต์ไฟฟ้าและการชาร์จไฟ มีเทคโนโลยีใดบ้างที่พอจะช่วยผลักดันให้มีการนำรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้


    Lounell

    อันดับแรก เราต้องรู้ว่าการนำรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้นั้นไปถึงไหน พันธมิตรของเราดำเนินการอย่างไร และแม้กระทั่งแรงจูงใจจากรัฐบาล แรงจูงใจเหล่านั้นจะคงอยู่และเปลี่ยนวิธีคิดของลูกค้าได้นานแค่ไหน ในบางครั้งสัญญาณเหล่านี้ก็ไม่ชัดเจน เราจึงต้องพิจารณาปัจจัยหลายประการในด้านเทคโนโลยี เศรษฐกิจ และสังคมที่นอกเหนือจากด้านอื่น ซึ่ง ปัญญาประดิษฐ์และการวิเคราะห์ข้อมูลจะมีบทบาทสำคัญในการรวบรวมสัญญาณเหล่านี้เพื่อประมวลผล ดึงข้อมูลเชิงลึก และรับการสนับสนุนจากภาครัฐในด้านเทคโนโลยีและโครงการริเริ่มของภาครัฐในท้ายที่สุด

    ในเรื่องของความพร้อมใช้งานของเครือข่ายสถานีชาร์จ คุณต้องไม่มีจุดชาร์จน้อยเกินไปหรือมากเกินไปด้วยเหตุผลทางเศรษฐกิจและทางเทคนิค ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องเพิ่มตำแหน่งของจุดชาร์จอย่างเหมาะสมที่สุดโดยคำนึงถึงขนาดของสถานีที่เหมาะสมตามความต้องการในการชาร์จ

    นอกจากนี้ การนำรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้จะเร่งให้เกิดขึ้นได้ ด้วยการพัฒนาและการจัดเทคโนโลยีเสริมให้เหมาะสม เช่น เทคโนโลยี V2X ที่มีความก้าวหน้า ซึ่งช่วยปรับปรุงระบบอัจฉริยะของรถยนต์ เช่น โดยการเลือกการขนส่งที่ปลอดภัยและสะดวกสบายยิ่งขึ้น และการจัดให้มีการชาร์จแบบอัจฉริยะให้เหมาะสมเพื่อบริหารจัดการการใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งเมื่อไม่นานมานี้ยังมีพันธสัญญาที่มีความเข้มงวดเกี่ยวกับการลดการปล่อยมลพิษอย่างเร่งด่วนตามที่เห็นใน COP26 ดังนั้น โซลูชันการจัดเก็บพลังงานแบตเตอรี่ซึ่งตอบสนองความต้องการพลังงานที่มาจากรถยนต์ไฟฟ้า ไม่ควรเป็นเพียงวิธีช่วยให้โครงข่ายไฟฟ้ามีความเสถียรมากขึ้นเท่านั้น แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือความยืดหยุ่นในการเลือกแหล่งพลังงานหมุนเวียน

     

     

    การนำรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้และใบอนุญาตทางสังคม

     

    หากใครเห็นว่ารถยนต์ไฟฟ้าประหยัดได้มากขึ้น ก็เป็นไปได้ที่เขาจะหารถยนต์ไฟฟ้ามาใช้
    ถ้าเรามีสถานีชาร์จเพียงพอ แต่การนำมาใช้ยังไม่มากพออย่างที่คิดไว้ จะเป็นอย่างไร

    Alex
    พิธีกร


    Mark

    ผมคิดว่าต้องย้อนกลับไปที่ปัจจัยสี่ข้อที่ คุณ Chee Kiong ยกขึ้นมาพูดเมื่อครู่นี้ ค่าใช้จ่าย ความกังวลเรื่องระยะวิ่ง เวลาในการชาร์จ และความพร้อมใช้งานของสถานีชาร์จ เราทำเพียงพอหรือมีแรงผลักดันเพียงพอที่ปัญหาจะแก้ไขไปได้เองหรือไม่ คุณสามารถควบคุมปัจจัยบางอย่างได้และบางอย่างคุณควบคุมไม่ได้ เช่น แบตเตอรี่ราคาตกและผู้ผลิตรถยนต์มีรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ซึ่งผู้ผลิตรถยนต์กำลังผลักดันออกมาอีก 300-400 รุ่นในอีกสามถึงสี่ปีข้างหน้า ซึ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างยิ่งใหญ่แน่นอน

    เพื่อการหารือกัน ผมคิดว่าพฤติกรรมของมนุษย์และการเปลี่ยนแปลงวิธีคิดต้องใช้เวลา และบางครั้งคนก็ไม่ต้องการเปลี่ยนวิธีคิดของพวกเขา แต่สุดท้ายแล้วผมเชื่อว่าคนจะหันกลับมาเมื่อส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องทางการเงิน และเห็นว่ารถยนต์ไฟฟ้ามีความสมเหตุสมผลทางการเงินมากกว่า ในระยะยาวคนทั่วไปที่ไม่มีการปรับเปลี่ยนคงหาได้ยาก จะมีช่วงเวลาที่มี ICE ไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้าอยู่ร่วมกันเป็นเวลานาน แต่สภาวการณ์ในเวลานั้นจะเป็นตัวจัดการเอง

    Alex

    แล้วจากมุมมองของผู้ให้บริการ คุณ Nirupa คุณคิดว่ายังไง


    Nirupa

    ดิฉันคิดว่าการนำรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้เป็นส่วนหนึ่งของใบอนุญาตทางสังคมที่เรามีการปรับตัวก้าวไปข้างหน้า ในแง่ของความท้าทาย โครงสร้างพื้นฐานเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องมีการลงทุนเพิ่มเติม ในอดีตการออกแบบโครงข่ายไฟฟ้าขึ้นเมื่อ 100 ปีที่แล้วโดยไม่ได้คำนึงถึงการติดตั้งแบบแยกจากศูนย์กลาง แรงผลักดันให้จัดโครงสร้างพื้นฐานในการชาร์จที่เหมาะสมในปัจจุบันจึงอยู่ที่ระดับการกระจายโครงข่ายไฟฟ้า ซึ่งไม่อยู่ในระดับเดียวกับกรอบงานเดิมและการออกแบบโครงข่ายไฟฟ้าแบบรวมศูนย์ โดยต้องมีการยกเครื่องกำกับดูแลผู้ให้บริการไฟฟ้า สำหรับสาธารณูปโภคอย่าง Singapore Power ต้องมีโมเดลธุรกิจใหม่ที่ใช้นวัตกรรมเทคโนโลยี B2B มากขึ้น เพื่อใช้ในการพัฒนาอุตสาหกรรมนี้ต่อไปและเพิ่มการนำมาใช้

    LTA มีวิสัยทัศน์ที่ดีสำหรับประเทศสิงคโปร์ แต่เราจะนำไปปรับใช้ในระดับที่กว้างขึ้นได้อย่างไร โดยจะมีความท้าทายที่เราไม่เคยพบมาก่อน ตัวอย่างเช่น โครงสร้างพื้นฐานด้านไฟฟ้าของอู่รถโดยสารได้รับการออกแบบให้มีไฟส่องสว่างเพียงพอ แต่ไม่ใช่ระบบการชาร์จระดับเมกะวัตต์ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องยกเครื่องและลงทุนโครงสร้างดังกล่าว แล้วเราจะจ่ายได้อย่างไร แล้วจะมีความยั่งยืนในการใช้เทคโนโลยีใหม่อย่างเช่นพลังงานแสงอาทิตย์ได้อย่างไร

    มีหลายสิ่งที่ต้องคิด และโดยรวมแล้วในห้องนี้ เรามีตัวแทนในด้านเทคโนโลยี การวิจัย รัฐบาล ผู้ประกอบการ และสมาคมทั้งหลาย ซึ่งสามารถวางแผนร่วมกันได้

     

     

     

    การสร้างสมดุลระหว่างการนำรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้กับความต้องการด้านโครงสร้างพื้นฐาน

    ตามที่เห็นใน COP26 รัฐบาลทุกประเทศควรจัดทำแผนเพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะกลายเป็นบรรทัดฐานที่ทุกคนต้องคำนวณว่าจะใช้เวลาในการวางแผนมากแค่ไหน และวิธีการเดียวที่จะทำได้คือการใช้คอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับภาคธุรกิจ

     

     

    ในฐานะผู้ให้บริการ คุณคิดว่าอย่างไร

    Alex
    พิธีกร


    Chee Kiong

    หนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่ขายดีที่สุดในปีที่ผ่านมาคือรถตู้ไฟฟ้าขนาดเล็ก คนขับรถตู้รุ่นนี้ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในที่พักที่รัฐให้การช่วยเหลือ หรือ HDB ดังนั้น ในขณะที่คนขับบางคนจอดรถตู้ค้างคืนไว้ที่บริษัท แต่คนขับส่วนใหญ่ขับรถตู้กลับบ้าน การลงทุนด้านสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในที่พัก HDB จึงเป็นกุญแจสำคัญ เราจำเป็นต้องเข้าใจระบบนิเวศทั้งระบบและลงทุนเฉพาะกลุ่มก่อน

    พลังงานกับ IT มาบรรจบกันครั้งใหญ่นี้ จะช่วยจัดการกับความท้าทายจำนวนมากเกี่ยวกับการใช้รถยนต์ไฟฟ้าได้ เวลาที่คนออกแบบอาคารหรือที่จอดรถในอดีต พวกเขาไม่นึกมาก่อนว่าจะต้องมีโครงสร้างพื้นฐานสำหรับชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแหล่งจ่ายไฟในอาคารทั่วไป จึงไม่มีอุปกรณ์ตัดไฟที่เพียงพอหากเราต้องการให้ร้อยละ 15 ของพื้นที่จอดรถแต่ละแห่ง มีสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า สิ่งนี้เป็นความท้าทายด้านโครงสร้างพื้นฐานครั้งใหญ่สำหรับประเทศสิงคโปร์ และรัฐบาลกำลังพยายามจัดการกับหลายด้าน ซึ่งเทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์ จะเข้ามามีบทบาทสำคัญ

    ความเห็นแก่ตัวของคนขับรถรถยนต์ไฟฟ้าที่ขาดความระมัดระวัง ถือเป็นความท้าทายอีกข้อหนึ่ง ตัวอย่างเช่น รถชาร์จไฟเสร็จใน 3 ชั่วโมง แต่ยังจอดแช่ต่อ หรือที่ชาร์จว่างแล้วแต่ที่จอดรถที่จะเข้าถึงพอร์ตชาร์จไม่ว่าง ความเห็นแก่ตัวจะทำให้ใช้ประโยชน์จากสิ่งที่มีได้น้อยลง และก่อให้เกิดปัญหาตามมา เพื่อจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้น เราสามารถใช้ซอฟต์แวร์และITเพื่อเปลี่ยนพฤติกรรมและส่งเสริมการกำหนดเวลาและการจองแบบอัจฉริยะได้ ปัญหาจากความเห็นแก่ตัวจึงทำให้ Hitachi และบริษัทอื่นมองเห็นโอกาสเพราะเป็นเรื่องที่มีซอฟต์แวร์และปัญญาประดิษฐ์เข้ามาเกี่ยวข้อง บริษัท Charge+ จึงเริ่มพัฒนาซอฟต์แวร์ลักษณะนี้บ้างแล้ว และจะทยอยเปิดตัวในอีก 6 เดือนข้างหน้า

    Alex

    เมื่อพิจารณาจากทุกประเด็นที่คุณ Chee Kiong กล่าวถึง คุณเห็นอะไรเกี่ยวกับการชาร์จและการนำรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้จากจุดยืนของสมาคม


    Paul

    ภารกิจที่มี คือ การจับคู่ความต้องการสถานีชาร์จกับความต้องการรถ โดยพื้นฐานแล้ว เรารู้ว่าโดยเฉลี่ยแล้วคนขับรถในประเทศสิงคโปร์ขับรถเป็นระยะทางกี่ไมล์และกี่กิโลเมตร จากตรงนั้น เราจะได้แนวคิดแล้วว่าต้องใช้พลังงานเท่าไร

    วิสัยทัศน์ปี พ.ศ. 2583 ของเราคือรถยนต์ทุกคันในประเทศสิงคโปร์จะใช้พลังงานไฟฟ้าร้อยละ 100 และแต่ละปีรถยนต์ทั้งหมดนั้นจะต้องใช้พลังงานกี่เทราวัตต์ต่อชั่วโมง เราจะจัดหาพลังงานให้เพียงพอกับรถยนต์เหล่านั้นตลอดทั้งปีได้อย่างไร ถ้าการขับรถของแต่ละคนแตกต่างกันไม่มาก เราจะจับคู่จุดชาร์จเข้ากับผู้ขับขี่ตามจริงได้อย่างไร

    เราต้องเข้าใจวิธีการทำงานร่วมกันของทั้งระบบให้มากขึ้นเพราะเราไม่ได้พูดถึงการจ่ายไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว แต่เรากำลังพูดถึงการผลิตพลังงานด้วย ประเทศสิงคโปร์กำลังมุ่งไปสู่การใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียน ซึ่งเป็นที่ทราบกันว่าพลังงานหมุนเวียนมีความไม่ต่อเนื่อง ไม่คงที่ ซึ่งจะก่อให้เกิดความท้าทาย เราจึงต้องสามารถทำงานร่วมกันและมองหาโอกาสในการปรับให้เหมาะสมที่สุด

    อนาคตของเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าและบทบาทของปัญญาประดิษฐ์

     

    ในส่วนนี้มีผู้เล่นเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่ด้านพลังงานไฟฟ้าไปจนถึงสถานที่ ระบบ บล็อกชาร์จไฟ โครงข่ายไฟฟ้า ซอฟต์แวร์ ผู้ให้บริการ และแม้แต่ FinTech

    เรามีผู้เล่นเพียงพอที่จะเริ่มทำงานหรือไม

    Alex
    พิธีกร


    Paul

    ผมคิดว่าจำเป็นต้องมีการลงทุนเพิ่มเติมในการพัฒนาเทคโนโลยีและการวิจัย และเพิ่มคนที่ทำงานร่วมกันในด้านที่มีความแตกต่าง ซึ่งเรามีคนมากพอที่จะเริ่มทำงานอย่างแน่นอน


    Mark

    เรามีผู้เล่นที่เหมาะสมในสายงานทั้งหมดมารวมตัวกัน เช่น ผู้ให้บริการสถานีชาร์จ ผู้รับจ้างผลิตรถยนต์ตามแบบที่กำหนด ผู้รับจ้างผลิตอุปกรณ์ชาร์จตามแบบที่กำหนด เพื่อให้เราเริ่มต้นการเปลี่ยนผ่านไปใช้รถยนต์ไฟฟ้า เนื่องจากการใช้รถยนต์ไฟฟ้าขยายตัวขึ้น เราจึงต้องคำนึงถึงส่วนอื่นของระบบนิเวศตลอดวงจรชีวิตรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดด้วย เช่น ตลาดหลังการขายเพื่อรักษาจำนวนประชากรของรถยนต์ไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐานสำหรับชาร์จ และการสิ้นสุดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าเพื่อให้มั่นใจว่ามีการกำจัดทิ้งหรือนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นอย่างเหมาะสม

    Alex

    เมื่อเปิดโอกาสให้มีผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ปัญญาประดิษฐ์เพื่อช่วยนำทางไปยังสถานีชาร์จและหาค่าบริการที่ถูกที่สุดได้ กลับไปที่คุณ Lounell บ้างว่า อนาคตของเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าจะเป็นอย่างไร


    Lounell

    ผมคิดว่าอนาคตของเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้านั้นสดใส จุดชาร์จสามารถเพิ่มฟังก์ชันได้อีก เช่น การรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับแบตเตอรี่ รถ ประวัติลูกค้า หรือวิธีที่ลูกค้าใช้สถานี ซึ่งข้อมูลนี้สำคัญต่อการคาดการณ์ความต้องการการชาร์จและการใช้พลังงานให้แม่นยำ และประวัติผู้ที่มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้ามากที่สุดเพื่อผลักดันยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า

    จากมุมมองของผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า ยังคงมีความกังวลเรื่องการใช้สายชาร์จและประเภทปลั๊กที่ไม่คุ้นเคย หากสายทั้งหมดเหมือนกันจะทำให้ผู้ใช้มั่นใจมากขึ้นเมื่อทำการชาร์จ อันที่จริงการชาร์จแบบไร้สายอาจเป็นทางแก้ปัญหานี้ได้ ซึ่งความกังวลอีกข้อหนึ่งก็คือการรู้ว่าจุดชาร์จต่อไปอยู่ที่ไหน และให้ข้อมูลแก่ลูกค้ามากพอเพื่อไปยังที่หมาย เทคโนโลยีแบบนั้นต้องให้ข้อมูลเชิงลึกและข้อเสนอแนะที่ผู้ใช้นำไปปฏิบัติได้

    นอกจากนี้รถยนต์ไฟฟ้ายังขึ้นอยู่กับความจุและประสิทธิภาพของแบตเตอรี่รถ ดังนั้น เราจะเห็นนวัตกรรมมากมายของแบตเตอรี่ ตั้งแต่การออกแบบ การตรวจติดตาม และการวินิจฉัยเพื่อยืดอายุแบตเตอรี่ ในที่สุดเราจะเห็นการมาบรรจบกันจำนวนมากของเทคโนโลยีรถยนต์ที่มีการเชื่อมโยงกันเองกับรถยนต์ไฟฟ้าเหล่านี้

    Alex

    เราจะเปลี่ยนไปทางด้านธุรกิจบ้าง จากมุมมองของผู้ให้บริการ หากรัฐบาลไม่มีเงินสนับสนุนคุณจะทำอย่างไร จะยังคงเติบโตได้ไหม


    Chee Kiong

    เราอยากคว้าโอกาสของรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศสิงคโปร์ตอนนี้ เราพร้อมที่จะลงทุนเพื่อเป็นเจ้าของและให้บริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า เงินสนับสนุนจากภาครัฐก็ช่วยได้ แต่ไม่ใช่เงื่อนไขแรกที่จำเป็นต้องมี ซึ่งผมคิดว่าจะเป็นงานในระยะยาวต่อไป


    Paul

    หลายสิ่งเช่น เงินสนับสนุนไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เกิดขึ้น แต่เป็นตัวเร่งให้เกิดขึ้น โดยช่วยให้ตลาดเริ่มออกตัวได้อย่างรวดเร็ว

    Alex

    เป็นความเห็นที่เยี่ยมมาก คุณคิดว่านักลงทุนจากภายนอกจะผลักดันให้มีการใช้งานเร็วขึ้นหรือไม่


    Nirupa

    ดิฉันเห็นด้วยกับที่พูดมาก่อนหน้านี้ เราไม่ได้มาอยู่ตรงนี้เพื่อรับเงินสนับสนุน เงินสนับสนุนจะช่วยในเรื่องการเริ่มนำรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้ การปรับปรุงเทคโนโลยี จำนวนการใช้ และสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด แต่สุดท้ายแล้ว สิ่งที่ต้องเกิดขึ้นก็คือเทคโนโลยีเชิงพาณิชย์จำเป็นต้องใช้การได้จริงในเชิงพาณิชย์เพื่อขับเคลื่อนการเพิ่มลูกค้า ต้นทุนของรถยนต์ไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐานสำหรับชาร์จกำลังลดลง และการลงทุนและการพัฒนานวัตกรรมทางเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้ต้นทุนลดลงได้อีก


    Mark

    เป็นสิ่งที่น่าสนใจมากเมื่อเรามองตลาดและอ่านความต้องการของตลาด หากไม่มีการใช้กลไกตลาดในการกำกับดูแล เราจะไม่ได้รับสัญญาณที่เราต้องการ ตามที่ Paul พูดไปแล้ว การให้เงินสนับสนุนนั้นเป็นตัวเร่งให้เกิดขึ้นมากกว่า เราต้องการเติมเชื้อเพลิงเล็กน้อยเพื่อให้ถึงความเร็วในระดับหนึ่ง ความปลอดภัยที่ดี ข้อบังคับที่ดี และมาตรฐานที่ดี นั่นคือวิธีที่เราทำให้ระบบนิเวศนี้เติบโต

    Alex

    ผมจะไปที่คำถามสุดท้าย เรามีสถาณการณ์ที่ซับซ้อนและมีปัจจัยหลายอย่างเกี่ยวข้อง เราเห็นถึงความจำเป็นของผู้รับจ้างผลิตตามกำหนด (OEM) หรือบทบาทของผู้รวมระบบ (Integrator) หรือไม่


    Mark

    บทบาทของ National Electric Vehicle Centre คือ การมีส่วนร่วมในหลายส่วน ของระบบนิเวศเพื่อร่วมมือกัน กำหนดระเบียบข้อบังคับ และพัฒนาระบบนิเวศในประเทศ อย่างไรก็ตาม ขณะที่รัฐบาลเข้ามามีบทบาทในการอำนวยความสะดวกในเรื่องนี้ได้ เราก็ต้องร่วมมือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมเพื่อสร้างความตระหนัก ให้ความรู้ และทำให้การเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมและสังคมเป็นผลสำเร็จ


    Paul

    ผมคิดว่าเรามีพื้นที่สำหรับบุคคลและองค์กรที่จะมารวมตัวกันเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมโดยรวม เรามีโอกาสเท่ากันเสมอ การลงทุนด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมจำเป็นต้องดำเนินต่อไป

    Alex

    ในขณะที่เรามุ่งสู่การขนส่งสาธารณะที่ใช้ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ การจะไปให้ถึงจุดนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่เรื่องโครงสร้างพื้นฐานและการเอาชนะวิธีคิด แต่เราทุกคนต่างเห็นพ้องกันว่านี่เป็นโอกาสทางธุรกิจที่ชัดเจน ซึ่งหนึ่งในโอกาสที่ใหญ่ที่สุดคือฝ่ายวิจัยและพัฒนาจะทำงานร่วมกับพันธมิตรทั้งหมดเพื่อคิดและค้นหาเทคโนโลยีที่จำเป็นมากขึ้นอีก

     

    การขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านไปสู่อนาคตที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนจะต้องใช้ความพยายามร่วมกันของพันธมิตร ด้วยการสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า Hitachi กำลังดำเนินงานเพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ประหยัดพลังงานและยั่งยืน รวมไปถึงนวัตกรรมโซลูชันดิจิทัลตั้งแต่ระบบส่งกำลัง การจ่ายพลังงานไปจนถึงจุดชาร์จ การติดตั้งโครงสร้างพื้นฐานของรถยนต์ไฟฟ้าที่เข้าถึงได้จะช่วยเร่งให้มีการนำแหล่งพลังงานที่ยั่งยืนมาใช้

    *1 การปล่อยก๊าซเรือนกระจกของโลกในปี 2561 แยกตามภาคส่วน, การใช้งานขั้นสุดท้ายและก๊าซ, การเฝ้าระวังสภาพอากาศ, สถาบันวิจัยทรัพยากรโลก, ตุลาคม พ.ศ. 2563
    *2 บทความที่เกี่ยวข้องในเว็บไซต์ Hitachi Social Innovation: “รถยนต์ไฟฟ้าไม่ใช่เรื่องง่าย”

    หากคุณต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกิจกรรมที่ Hitachi Asia Research & Development โปรดเยี่ยมชมเว็บไซตของเรา

    ประวัติโดยย่อ

    คุณChee Kiong GOH

    CEO CHARGE+

    คุณGoh Chee Kiong เป็น CEO ของบริษัท Charge+ ผู้ให้บริการโซลูชันการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำในประเทศสิงคโปร์และระดับภูมิภาค ในฐานะที่เป็นบริษัทสาขาย่อย ที่เคลื่อนไหวเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของ Sunseap Group บริษัท Charge+ ได้ขยายโครงสร้างพื้นฐานสำหรับชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าอย่างรวดเร็วเพื่อเปิดบริการจุดชาร์จ 10,000 จุดในประเทศสิงคโปร์ตามเป้าของบริษัทภายในปี พ.ศ. 2573

    ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2564 กิจการร่วมกันที่นำโดยบริษัท Charge+ เป็นที่รู้จักในฐานะผู้ชนะการประมูลโครงสร้างพื้นฐานสำหรับชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแห่งแรกของรัฐบาลประเทศสิงคโปร์ เขาเริ่มต้นทำงานใน Singapore Economic Development Board ซึ่งเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสะอาดมากว่าสองทศวรรษ เขารับผิดชอบโครงการริเริ่มด้านความยั่งยืนระดับชาติหลายโครงการ โดยเป็นผู้สนับสนุนด้านเทคโนโลยีสะอาดและความยั่งยืนมายาวนาน โดยได้รับเกียรติยศจำนวนมาก เช่น Public Administration Medal (เหรียญทองแดง) สำหรับการรับราชการและดำรงตำแหน่งคณะกรรมการของ Energy Studies Institute (ESI)

    คุณ Mark Tan

    Deputy Group Director
    Technology and Industry Development
    Land Transport Authority (LTA) ประเทศสิงคโปร์

    คุณMark เป็นหัวหน้า National Electric Vehicle Centre ที่ Land Transport Authority ประจำประเทศสิงคโปร์ โดยได้รับการแต่งตั้งให้เป็น Director, Futures and Transformation ที่ Ministry of Transport ในเวลาเดียวกัน

    บริษัท NEVC ก่อตั้งขึ้นในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2564 ทำหน้าที่เป็นสำนักงานโครงการแบบครบวงจรเพื่อขับเคลื่อนการนำรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้โดยการวางแผนงานโครงสร้างพื้นฐานสำหรับชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า กำหนดข้อบังคับและมาตรฐาน พัฒนาภาคอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า และการวิจัยระบบนิเวศ คุณ Mark เคยทำงานกับรัฐบาลในหลายด้านในฐานะนักการทูตทางการค้า นักวางผังเมือง และผู้จัดงานในชุมชน

    คุณ Paul WELSFORD

    Vice President
    Electric Vehicle Association of Singapore (EVAS)

    คุณ Paulเป็น Vice President ของ Electric Vehicle Association of Singapore (EVAS) ในวาระที่สองของเขาในฐานะ Vice President และสมาชิกผู้ก่อตั้งองค์กร คุณPaul ทำงานร่วมกับ President และคณะกรรมการท่านอื่นในการช่วยเร่งรัดการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศสิงคโปร์ บทบาทของ EVAS คือ การส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า สร้างแพลตฟอร์มสำหรับการกำหนดมาตรฐานและการสื่อสารระหว่างหลายส่วนในระบบนิเวศของยานยนต์ไฟฟ้าและร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรมเพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลที่กำลังดำเนินการ

    คุณPaul สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาวิศวกรรมศาสตร์ด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์และการผลิตจาก Loughborough University สหราชอาณาจักร เขาอาศัยอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์มาตั้งแต่ปี 2557 และเริ่มจัดกิจกรรมเพื่อสังคมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์ไฟฟ้าในปี พ.ศ. 2559

    คุณ Alex LIN, Ph.D.

    Deputy CEO of NTUitive and
    Board Director of Action Community for Entrepreneurship (ACE)

    คุณ Alexเป็นผู้สร้างระบบนิเวศนวัตกรรมที่ช่วยสร้างระบบนิเวศเริ่มต้นและนวัตกรรมในหลายประเทศ ปัจจุบันเขาเป็น CEO ของ NTUitive Alex เคยเป็นหัวหน้ากองทุนร่วมทุนรัฐบาลมูลค่า 200 ล้านเหรียญสหรัฐภายใต้ Infocomm Development Authority (IDA) นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 เขาได้ให้ทุนสนับสนุนแก่บริษัทสตาร์ทอัพมากกว่า 380 แห่ง และเร่งให้ธุรกิจสตาร์ทอัพมากกว่า 170 แห่ง ก้าวไปอยู่ในซีรีส์ A ความพยายามครั้งใหญ่ในที่นี้จะช่วยกระตุ้นระบบนิเวศของสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีของประเทศสิงคโปร์จากอันดับที่ 17 ขึ้นมาอยู่ที่อันดับที่ 10 ภายในเวลาสองปี และมีส่วนทำให้เป็นประเทศที่ธุรกิจสตาร์ทอัพมีอนาคตสดใสซึ่งเป็นที่พึงพอใจของทุกคนในขณะนี้

    คุณNirupa CHANDER

    Managing Director
    Hitachi Energy - Singapore

    คุณNirupa เป็น Country Managing Director – Singapore และเป็นหัวหน้า Marketing & Sales Function ประจำประเทศสิงคโปร์ของ Hitachi Energy (ก่อนหน้านี้คือ Hitachi ABB Power Grids) ตั้งแต่ปี พ.ศ.2562 นอกจากนี้ เธอยังเป็นผู้นำโครงการ Top Line Synergies สำหรับทวีปเอเชียใต้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมของเราร่วมกับกลุ่มบริษัท Hitachi ที่ขยายกว้างขึ้น Nirupa เข้าร่วมงานกับบริษัท ABB Power Grids ในปี พ.ศ.2552 ที่ประเทศออสเตรเลียหลังจากทำงานมาห้าปีใน BHEL ประเทศอินเดีย เธอดำรงตำแหน่งผู้นำด้านการดำเนินงานและการขายในบริษัท ABB Power Grids ฝ่าย Power Generation, Renewables Integration and Microgrids โดยย้ายไปยังประเทศสิงคโปร์ในปี 2560 เพื่อเป็นผู้นำฝ่าย Service and Digital ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

    คุณ Nirupa สำเร็จการศึกษาปริญญาตรีด้าน Electronics & Communication Engineering จาก LD College of Engineering (คุชราต ประเทศอินเดีย) และสำเร็จหลักสูตร Emerging Leadership Program ที่ Wharton University of Pennsylvania

    คุณLounell GUETA, Ph.D.

    Chief Researcher, Research & Development Center,
    Hitachi Asia Ltd.

    คุณLounell รับผิดชอบในการพัฒนาและบ่มเพาะแนวทางแก้ไขสำหรับประเทศในอาเซียน ผลงานปัจจุบันของเขา ได้แก่ การสร้างมูลค่าให้แก่ลูกค้าในด้านห่วงโซ่อุปทานด้านการขนส่ง และด้านการเงิน

    คุณLounell สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกด้าน precision engineering จากมหาวิทยาลัยโตเกียว ปัจจุบันเขาเป็นผู้สมัครที่มีคุณสมบัติเข้าศึกษาปริญญาโทบริหารธุรกิจที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติประเทศสิงคโปร์ เขาได้เขียนและร่วมเขียนรายงานการประชุมและวารสารวิชาการ มากกว่า 50 ฉบับ

    วันที่เผยแพร่: มีนาคม พ.ศ. 2565

    ดำเนินการจากบทความต้นฉบับใน < Insights from AI/Analytics: Building EV Charging Infrastructure Through Partnership and Collaboration > โดยได้รับอนุญาตจาก Hitachi Global Research